วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

เทคนิคการบรรเลงดนตรี

การบรรเลงเครื่องดนตรี 
การบรรเลงเครื่องดนตรี
     เครื่องดนตรีที่พบเห็นทั่วไป มีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีรูปแบบและวิธีการเล่นที่แตกต่างกันตามคุณลัษณะของเครื่องดนตรี ซึ่งการเล่นเครื่องดนตรีสามารถแบ่งเป็น การบรรเลงเดี่ยวและการบรรเลงเป็นวง
     การบรรเลงเดี่ยว คือ การบรรเลงเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียว ส่วนมากจะเป็นการบรรเลงเพื่อใช้ประกอบการแสดง
     การบรรเลงเป็นวง คือ การบรรเลงเครื่องดนตรีหลาย ๆ ชิ้น พร้อมกัน โดยแต่ละชิ้นจะต้องบรรเลงตามบทบาทหน้าที่ และสอดคล้องกลมกลืนกัน
    การบรรเลงเครื่องดนตรีแต่ละชนิด จะมีแนวทางการเล่นตามคุณลักษณะของเครื่องดนตรี ซึ่งเราจะแบ่งการเล่นเครื่องดนตรีออกตามประเภท ดังนี้
          1.  เครื่องสาย
               เครื่องสาย จัดเป็นเครื่องดนตรีที่มีสายเสียงเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำให้เกิดเสียงเป็นทำนองต่าง ๆ ซึ่งการเล่นเครื่องสายบางชนิดต้องใช้อุปกรณ์ช่วยทำให้เกิดเสียง
               การละเล่นเครื่องสายแบ่งตามประเภทได้ 2 วิธี คือ
              1.  การดีด เป็นการทำให้เส้นเสียงของเครื่องดนตรีเกิดการสั่นสะเทือนโดยใช้วิธีดีด และบางชนิดอาจใช้ไม้ดีดแบบต่างๆ ช่วยดีด เช่น การดีดจะเข้
               2.  การสี เป็นการใช้อุปกรณ์ถูเส้นเสียง จนทำให้เกิดเสียงเป็นทำนองต่าง ๆ ซึ่งการสีมีอยู่หลายวิธีตามคุณลักษณะของเครื่องดนตรี เช่น การสีซออู้ การสีซอด้วง เป็นต้น
           2.  เครื่องตี 
                
เครื่องตี เป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงโดยใช้วิธีการตี โดยการใช้มือเปล่าตีหรือไม้ตีเป็นอุปกรณ์ในการช่วยตี ซึ่งวิธีการตี เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีมีหลายวิธีตามคุณลักษณะของเครื่องดนตรี เช่น การตีระนาด การตีฆ้องวง เป็นต้น ผู้ที่ตีจะต้องตีให้ถูกต้องตามวิธีการตีของเครื่องดนตรีชนิดนั้น
           3.  เครื่องเป่า
                
เครื่องเป่า  เป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงโดยใช้วิธีการเป่าลมเข้าไปในเครื่องดนตรี เพื่อทำให้เกิดเสียงเป็นทำนองต่าง ๆ การเป่าเครื่องดนตรีนั้น คนเป่าจะต้องเป่าลมเข้าอย่างต่อเนื่องซึ่งจะต้องฝึกการหายใจให้สัมพันธ์กับการเป่าเครื่องดนตรี จึงจะได้เสียงดนตรีที่ไพเราะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น