ประเพณีเข้าพรรษา | |||
วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรให้แก่ปัญจวัคคีย์ โดยมีอัญญา-โกณฑัญญะ เป็นประมุข ณ ป่าอิสิปตมฤคทายวัน ในวันนี้จึงเป็นวันครบองค์ ๓ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ วันเข้าพรรษา คือการที่พระสงฆ์อยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งในช่วงฤดูฝน พระสงฆ์จะต้องหยุดการเดินทางไปที่ต่างๆ และพักอยู่ที่ใดที่หนึ่งโดยไม่ไปแรมคืนที่อื่นภายในกำหนด ๓ เดือนเรียกว่าเข้า วัสสา ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ เหนือไปจนถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนเกี๋ยง (เดือน 11ภาคกลาง)ชาวบ้านถือว่าเป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่ง เพราะเป็นโอกาสที่จะได้ร่วมทำบุญเป็นพิเศษ เมื่อถึงวันนี้ ชาวพุทธทั้งหลายจะพากันไปใส่บาตร รับศีล ตอนกลางคืนมีการถวายเทียนเข้าพรรษา ก่อนจะถึงวันหรือเวลาถวายเทียน มักจะมีการแห่เทียนพรรษา ไปตามหมู่บ้านต่างๆ เป็นที่สนุกสนาน ในช่วงเข้าพรรษาชาวบ้านส่วนใหญ่จะไปทำบุญที่กันทุกวันพระ มีการฟังเทศน์ ฟังธรร มักจะมีทานขันข้าวหาคนตาย รวมทั้งการทานแด่พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย คนเฒ่าคนแก่จะมีการไปนอนวัดจำศีล สำหรับคนทั่วไปบางคนก็ตั้งใจในการงดเว้นบาปและถือศีล เช่น รักษาอุโบสถศีลตลอดพรรษา งดเว้นดื่มสุรา งดเว้นเนื้อสัตว์ตลอดพรรษา เป็นต้น ทางราชการยังได้ถือเอาวัน เข้าพรรษาทุกปีเป็นวันต้นไม้แห่งชาติอีกด้วย | |||
ประเพณีออกพรรษา | |||
วันออกพรรษา หรือออกวัสสา คือวันสิ้นเทศกาลเข้าพรรษาระยะไตรมาส (๓ เดือน) ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนเกี๋ยงเหนือ (เดือน ๑๑ ภาคกลาง) ในวันนี้ทางสงฆ์จะจัดพิธีเรียกว่า"วันมหาปวารณา" คำว่า"ปวารณา"หมายถึงอนุญาตหรือยินยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนถึงข้อผิดพลาดที่ล่วงเกินระหว่างที่จำพรรษาอยู่ด้วยกัน โดยไม่ถือ โทษโกรธกัน หลังจากวันแรม ๑ ค่ำพระสงฆ์จะไปค้างคืนที่อื่นก็ได้ในวันออกพรรษาชาวบ้านจะจัดอาหารคาวหวานไปทำบุญที่วัดและจะมีการทำบุญตักบาตรเทโวโรหน คำว่า"เทโวโรหน" หมายถึง วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อครั้งพระองค์เสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือ วันพระเจ้าเปิดโลก | |||
ประเพณีทอดกฐิน | |||
ประเพณีการทอดกฐิน ในแต่ละปีกำหนดให้มีการจัดทอดกฐินขึ้นภายใน ๑ เดือน หลังประเพณีออกพรรษา โดยวัดที่จะสามารถ รับกฐินได้ ต้องมีพระภิกษุจำพรรษาโดยไม่ขาดพรรษาเลย ไม่ต่ำกว่า ๕ รูป และแต่ละวัดสามารถรับกฐินได้ปีละ ๑ ครั้ง | |||
ประเพณีทอดผ้าป่า | |||
การทอดปผ้าป่า นิยมกันในเดือนยี่ (เดือน ๑๒ ภาคกลาง) ผ้าป่าจะมี ๓ ลักษณะ ลักษณะที่ ๑ ผ้าป่าหางกฐิน คือเมื่อทอดกฐินแล้วก็ทอดผ้าป่าตามไปด้วย ลักษณะที่ ๒ ผ้าป่าโยง คือ ผ้าป่าเจ้าภาพเดี่ยวหรือเจ้าภาพรวมจัดทำไว้หลายกอง ลักษณะที่ ๓ ผ้าป่าสามัคคี คือการแจกฎีกาบอกบุญไปยังที่ต่าง ๆ ร่วมทำบุญตามศรัทธา มักจะจัดขึ้นเพื่อหาทุนสร้างถาวรวัดถุ | |||
ประเพณีลอยกระทง (ยี่เป็ง) | |||
เป็นประเพณีที่มีขึ้นของทุกปี จะตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ เหนือหรือเดือนยี่ เดือนพฤศจิกายน ของภาคกลางการลอยกระทง เพื่อเป็นการขอขมาต่อแม่น้ำคงคา ที่เราได้นำน้ำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ตามความเชื่อกันมาแต่โบราณการณ์ก่อนวันลอยกระทง ประมาณ ๑ หรือ ๒ วัน ตามวัดวาอารามและบ้านเรือน จะมีการประดับประดาโคมไฟที่มีสีสรรค์สวยงาม ในตอนกลางคืนจะจุดโคมไฟ สว่างไสวตามประตูหน้าบ้านจะจัดทำชุ้มประตูป่าหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าประตูโขงเพื่อเป็นการระลึกถึงครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จ ออกจากป่าเข้ามาสู่ในเมืองในบางวัดจะจัดให้มีการเข้าเขาวงกตเป็นการจำลองมาจากเขาวงกตมีเส้นทางที่สลับซับซ้อนหากผู้ใดเข้าไปใน เขาแห่งนี้แล้วที่มีจิตใจไม่บริสุทธิ์อาจจะหาทางออกไม่ได้ อุปกรณ์ในการจัดทำชุ้มประตูป่าหรือโขง ต้นกล้วย/ต้นอ้อย/ต้นกุ๊ก/ก้านพร้อมใบมะพร้าว/ดอกดาวเรือง/โคมไฟ | |||
ประเพณีสงกรานต์ | |||
ประเพณีสงกรานต์ จะเริ่มกันในเดือนเมษายน เริ่มในวันที่ ๑๓ - ๑๕ เมษายน ของทุกปี วันที่ ๑๓ เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ สำหรับชาวล้านนาเรียกว่า "วันสังขารล่อง" ในความเชื่อของชาวล้านนาวันที่๑๓ เมษายน ตอนเช้าตรู่จะมีปู่สังขาร ย่าสังขารจะหอบเอาสิ่งของเก่า ๆ ที่ไม่ดีล่องไปตามแม่น้ำ ลำคลอง จึงมีการยิงปืน จุดประทัดเพื่อเป็นการ ไล่สังขารเก่าออกไปและเป็นศิริมงคลกับตัวเอง วันนี้ชาวบ้านจะทำการปัดกวาดบ้านเรือน เก็บขยะมูลฝอยให้สะอาด และชำระร่างกายให้สะอาดตั้งแต่หัวถึงเท้า วันที่ ๑๔ เมษายน เป็นวันเนาว์หรือวันเน่าวันนี้เป็นวันดาคือวันที่ต้องเตรียมสิ่งของเพื่อไปทำบุญที่วัด ในช่วงตอนบ่ายจะมีการไปขนทรายเข้าวัด วันที่ ๑๕ เมษายน เป็นวันเถลิงศกเริ่มจุลศักราชใหม่ ชาวล้านนาเรียนว่า "วันพญาวัน" วันนี้ชาวบ้านจะไปทำบุญที่วัดมีตุง (ธงที่มีรูปสัตว์ ๑๒ ตัว) ตัวที่ ๑ ชวด - หนู (ไจ้) ตัวที่ ๒ ฉลู - วัว (เป้า) ตัวที่ ๓ ขาล - เสือ (ยี) ตัวที่ ๔ เถาะ - กระต่าย (เหม้า) ตัวที่ ๕ มะโรง - งูใหญ่ (สี) ตัวที่ ๖ มะเส็ง - งูเล็ก (ไส้) ตัวที่ ๗ มะเมีย - ม้า (สง้า) ตัวที่ ๘ มะแม - แพะ (เม็ด) ตัวที่ ๙ วอก - วอก (สัน) ตัวที่ ๑๐ ระกา - ไก่ (เล้า) ตัวที่ ๑๑ จอ - หมา (เส็ด) ตัวที่ ๑๒ กุน - ช้าง (ไก๊) วันที่ ๑๖ เมษายน วันปากปี๋ วันนี้จะมีการบูชาลดเคราะห์ ตอนบ่ายจะมีการดำหัวผู้อาวุโส หรือญาติผู้ใหญ่เพื่อขอพรปีใหม่ วันที่ ๑๗ เมษายน วันปากเดือน วันนี้จะมีการส่งเคราะห์หมู่บ้านจน(ส่งชน) ส่งแถน เพื่อให้คนในหมู่บ้านพ้นจากโรคหรือภัยพิบัดอันตรายต่าง ๆ ของปีเก่าให้หมดไป ประเพณีดำหัว สำหรับชาวล้านนานั้นหมายถึง "การสระผม" เพื่อเป็นการชำระสะสางเอาสิ่งอันเป็นอัปมงคลในชีวิตให้วิปลาสไปโดยการใช้น้ำขมิ้นส้มป่อยเป็นเครื่องชำระการดำหัวของชาวล้านนา มี ๓ ลักษณะ ลักษณะที่ ๑ ดำหัวตนเองคือทำพิธีเสกน้ำส้มป่อยด้วยคำ ที่เป็นศิริมงคล "สัพพทุกขา สัพพภย สัพพโรคา วินาสันตุ" แล้วลูบหัวด้วยน้ำส้มป่อย ลักษณะที่ ๒ ดำหัวผู้อาวุโสที่เราเคารพนับถือ เช่น บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ พระเถระ ผู้นำฯ ลักษณะที่ ๓ ดำหัวผู้น้อย เช่น ภรรยา บุตร หลาน คือการใช้น้ำส้มป่อยลูบศรีษะภรรยา บุตร หลาน |
วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559
ประเพณีวันสำคัญต่างๆ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น